หลังจากที่ได้ทดลองโพสต์เนื้อหาแบบออร์แกนิกไปแล้ว (อ่านบทความ : วิธีตรวจสอบประสิทธิภาพ เนื้อหาออร์แกนิกบน Facebook ที่นี่) หลังจากคุณควรเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาของคุณ ด้วยขั้นตอน 4 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ค้นหาผู้ติดตามที่เหมาะสมกับเพจ Facebook ของคุณ
คุณต้องแน่ใจว่าคุณกำหนดเป้าหมายเฉพาะกลุ่มที่ถูกต้องบน Facebook แล้ว Facebook Audience Insights สามารถช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลผู้ชมบนเพจและกลุ่มความสนใจทั้งหมดบน Facebook คุณสามารถดูระดับกิจกรรม เพจที่พวกเขากำลังติดตาม ประเภทอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้ และอื่นๆ ทุกคนที่มีหน้า Facebook สามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้ เมื่อคุณเปิด Audience Insights Facebook จะแจ้งให้คุณเลือกกลุ่มเป้าหมายที่จะเริ่มต้น เลือกทุกคนบน Facebook
ป้อนคีย์เวิร์ดของคุณลงในส่วนความสนใจทางด้านซ้ายของหน้า จากนั้น Facebook จะบอกคุณว่ามีคนอยู่ในพื้นที่นั้นกี่คน และข้อมูลประชากรบางส่วน เช่น อยู่ที่ไหน
หากคุณไปที่แท็บกิจกรรม คุณจะเห็นว่าผู้ชมนี้มีส่วนร่วมบน Facebook มากน้อยเพียงใด แสดงจำนวนความคิดเห็น การชอบ และการแชร์ที่พวกเขาให้โดยเฉลี่ยในหนึ่งเดือน รวมถึงจำนวนโฆษณาที่พวกเขาคลิก
นอกจากการดูข้อมูลผู้ชมตามความสนใจที่แตกต่างกันแล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลผู้ชมสำหรับเพจ Facebook แต่ละรายการได้อีกด้วย มองหาเพจในช่องของคุณและดูว่าผู้ชมของพวกเขาคล้ายกับเพจที่คุณต้องการดึงดูดสำหรับเพจของคุณหรือไม่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ชมในหน้าเหล่านั้นมีส่วนร่วม
เมื่อคุณระบุเพจที่มีผู้ชมที่มีส่วนร่วมที่คุณต้องการแสดงแล้ว คุณต้องเริ่มส่งสัญญาณให้ Facebook รู้ว่า เพจของคุณก็มีผู้ติดตามที่มีส่วนร่วมเหมือนกันเพจอื่นๆ โดยคุณไม่จำเป็นต้องร่วมมือกับเพจอื่นๆเพื่อดึงดูดการเข้าชมมาที่คุณก็ได้
การมีการส่วนร่วมทั้งหมดจะทำให้ Facebook ส่งสัญญาณว่าคุณมีประสิทธิภาพเหมือนเพจอื่นๆ โดย Facebook จะเริ่มเพิ่มปริมาณการเข้าชมจากผู้ชมที่ใช้งานในอีกเพจหนึ่งไปยังเพจของคุณ คุณจะเริ่มเห็นคำแนะนำหน้าเว็บที่เพิ่มขึ้นเมื่อคุณเริ่มเพิ่มจำนวนผู้ชม โดยไม่ต้องลงโฆษณาใดๆ
2. ค้นหารูปแบบการส่งข้อความที่เหมาะสมสำหรับเพจ Facebook ของคุณ
ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างข้อความที่เหมาะสมสำหรับหน้า Facebook ของคุณ ข้อความนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของคุณ แต่ถ้าเนื้อหาดี คุณก็ได้รับการแชร์ต่ออย่างง่ายดาย เริ่มต้นด้วยการดูเนื้อหาในหน้าเป้าหมายที่คุณระบุไว้ข้างต้น โพสต์ใดที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกดี มีส่วนร่วมมาก เนื้อหานั้นจะเป็นเนื้อหาที่น่าสนใจของเพจคุณ
ผู้ติดตามของคุณรู้ว่าทุกสิ่งที่พวกเขาพูดและชอบบน Facebook นั้นเป็นแบบสาธารณะ เพื่อนและครอบครัวของพวกเขาสามารถเห็นสิ่งที่พวกเขามีส่วนร่วมได้ เป็นธรรมชาติ พวกเขาจะพูดสิ่งต่างๆ บน Facebook ที่ทำให้พวกเขาดูดี หรือแสดงออกทางความรู้สึกและอาจสามารถส่งผลกระทบต่อผู้อื่นได้
คุณต้องสร้างเนื้อหาที่สะท้อนให้เห็นว่าผู้ชมของคุณเป็นใครเพื่อให้พวกเขาแสดงตัวตนในเชิงบวก หากคุณสร้างโพสต์สำหรับเพจของคุณที่ระบุว่า “5 วิธีในการลดน้ำหนักใน 10 วัน” ผู้ชมของคุณจะไม่ต้องการแบ่งปันเพราะพวกเขาไม่ต้องการให้โลกรู้ว่าพวกเขากำลังพยายามลดน้ำหนัก หรือมีน้ำหนักที่มากเกินไป ดังนั้น คุณจึงต้องการคิดในแง่บวกมากขึ้น เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ การแต่งตัวที่เหมาะสมกับรูปร่างต่างๆ เป็นต้น หรือเรื่องเกี่ยวกับการเงิน สิ่งที่พวกเขาต้องการให้ผู้คนรู้เกี่ยวกับพวกเขาคือพวกเขากำลังทำงานเพื่ออิสรภาพทางการเงินและพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ เป็นต้น
3. โพสต์ 4 โพสต์เพื่อดึงดูดผู้ติดตามให้เพจ Facebook ของคุณ
เมื่อคุณมีผู้ติดตามและข้อความที่เหมาะสมแล้ว ส่วนสำคัญข้อสุดท้ายก็คือเนื้อหาของคุณ คุณต้องสร้างเนื้อหาที่ส่งสัญญาณต่างๆ ให้ Facebook ตรวจสอบเพื่อพิจารณาว่ามีความเกี่ยวข้อง การโต้ตอบ เช่น การกดชื่นชอบโพสต์ การกดรีแอคต่างๆ หรือการแสดงความคิดเห็นสั้นๆ ถือเป็นสัญญาณตอบรับกับเนื้อหาประเภทต่างๆ สามารถช่วยให้คุณกระตุ้นสัญญาณว่าเนื้อหาของคุณเป็นสิ่งที่ผู้คนสนใจ นั่นเป็นเหตุผลที่คุณต้องสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดให้ผู้ชมของคุณมีส่วนร่วมในรูปแบบต่างๆ เหล่านี้ ด้วยการใช้ “การมีส่วนร่วม” ของรูปภาพ วิดีโอ และการเริ่มต้นการสนทนา คุณสามารถรับผลลัพธ์ที่มีค่าทั้งหมดจากเนื้อหาของคุณ
ลงรูปเพื่อไลค์
หากคุณต้องการกระตุ้นให้ผู้ชมชอบโพสต์ของคุณ โดยทั่วไปแล้วคุณจะได้รับการตอบสนองเล็กน้อยจากมีมและรูปภาพมากกว่าวิดีโอ นอกจากนี้ คำพูด เนื้อหาเบื้องหลัง และประเด็นที่น่าสนใจมักจะดึงดูดการยกนิ้วให้ หัวใจ เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น หากเนื้อหาของคุณมีข้อความบนเพจว่า “ฉันเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเอง” ให้เดาว่าผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจของตนเองจะทำอะไรเมื่อเห็นโพสต์นั้น พวกเขาจะกดไลค์ซึ่งจะส่งสัญญาณไปยัง Facebook ว่าเนื้อหาและเพจของคุณเกี่ยวข้องกับบุคคลนั้น
โพสต์วิดีโอเพื่อแชร์และบันทึก
ผู้ใช้ Facebook มีแนวโน้มที่จะแบ่งปันหรือบันทึกวิดีโอมากกว่าที่จะชอบหรือแสดงความคิดเห็นในวิดีโอ เมื่อพวกเขาบันทึกหรือแชร์วิดีโอของคุณ มันจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยัง Facebook ว่าเป็นเนื้อหาที่มีคุณภาพ ดังนั้น Facebook จะเริ่มให้บริการเนื้อหาที่คล้ายคลึงกันกับบุคคลนั้นและคนอื่นๆ ที่คล้ายกับพวกเขา
คุณสามารถสร้างการมีส่วนร่วมประเภทนี้ด้วยวิดีโอ Facebook ที่มีความยาวต่างกัน คุณสามารถใช้ GIF หรือวิดีโอความยาว 15 วินาทีในเรื่องราวหรือฟีดของคุณ หรือแชร์วิดีโอความยาว 30 วินาทีได้อย่างรวดเร็ว สำหรับวิดีโอที่มีความยาว 3 นาทีขึ้นไป ให้จัดเป็นเพลย์ลิสต์ โดยจะเล่นทีละรายการ หากคุณสามารถทำให้ผู้ดูดูวิดีโอสามรายการติดต่อกันได้
สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นวิดีโอที่มีบทสนทนา ผู้คนจำนวนมากบน Facebook ดูวิดีโอโดยปิดเสียงไว้ ดังนั้นวิดีโอของคุณควรเข้าใจได้โดยไม่มีเสียง ใช้การถอดเสียงเป็นคำบางประเภท ไม่ว่าจะเป็นคำอธิบายภาพหรือข้อความซ้อนทับ เพื่อถ่ายทอดข้อความหรือเรื่องราวของคุณให้กับผู้ที่รับชมโดยไม่มีเสียง และเช่นเดียวกับเนื้อหาประเภทอื่นๆ บนหน้าของคุณ วิดีโอของคุณควรใส่ข้อความของคุณ
โพสต์บทสนทนาเริ่มต้นสำหรับความคิดเห็น
โพสต์เริ่มต้นการสนทนาคือเมื่อคุณถามคำถามที่ผู้ชมที่สมบูรณ์แบบของคุณอดไม่ได้ที่จะตอบ ต้องเป็นสิ่งที่พวกเขาจะตอบทันทีว่า “ใช่” “ไม่ใช่”
ตัวอย่างเช่น การเริ่มต้นการสนทนาสำหรับผู้ฟังของคุณอาจเป็น “คุณแม่คนไหนที่ทำงานและเลี้ยงลูกไปพร้อมๆ กัน” ผู้ติดตามของคุณอาจจะตอบว่า “ใช่ ฉันเอง” และคุณค่อยพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับธุรกิจหรือลูกๆ ของพวกเขาอย่างเป็นธรรมชาติ โดยคุณอาจจะหาแนวคิดสำหรับการเริ่มต้นการสนทนา โดยดูที่หน้า Facebook ที่คุณระบุ เพื่อหาแรงบันดาลใจ ดูคำถามที่พวกเขาถามซึ่งสร้างการมีส่วนร่วมอย่างมาก เป็นต้น
4. ใช้โพสต์ที่ 5 ของคุณเพื่อโปรโมต
เมื่อคุณได้รับการมีส่วนร่วมจากเนื้อหาของคุณ คุณมีผู้ติดตามที่รู้จักแบรนด์ของคุณ ชื่นชอบ และไว้วางใจ ดังนั้นหลังจากโพสต์รูปภาพ โพสต์วิดีโอ และโพสต์การสนทนาแล้ว โพสต์ที่สี่หรือห้าก็อาจเกี่ยวกับข้อเสนอของคุณ โดยที่ข้อเสนอของคุณไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่คุณขาย อาจเป็นการเข้าร่วมกลุ่ม Facebook หรือฟังพอดแคสต์ตอนล่าสุดของคุณ โดยให้ผู้ติดตามของคุณมีส่วนในการเลือกเอง
เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา
แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @inDigital ที่นี่
Fanpage : InDigital News
ที่มา : SocialMediaExaminer