fbpx

แชร์! เทคนิคทำ Content ลดต้นทุนค่าโปรโมทโฆษณา เมื่อค่าแอดแพงขึ้น

0

การโฆษณาเป็นส่วนสำคัญของการทำธุรกิจ แต่ในปัจจุบันค่าโฆษณามีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกิจต้องจัดสรรงบประมาณสูงเพื่อใช้ในการโปรโมทสินค้าหรือบริการของตนเอง ด้วยเหตุนี้ การลดต้นทุนค่าโปรโมทโฆษณาโดยการสร้างเนื้อหา (content) ที่มีคุณภาพและมีความน่าสนใจ เป็นสิ่งที่ธุรกิจควรพิจารณาและตระหนักถึง

วิธีการสร้างเนื้อหา (content) ที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนค่าโปรโมทโฆษณา:

หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือผู้จัดการการตลาดออนไลน์ คุณอาจกังวลว่าการลดต้นทุนในโฆษณาอาจทำให้คุณสูญเสียโอกาสในการเพิ่มยอดขายของธุรกิจของคุณ อย่างไรก็ตาม มีวิธีที่คุณสามารถลดต้นทุนโฆษณาได้ ดังนี้:

  1. วางแผนกลยุทธ์เนื้อหา: ก่อนที่คุณจะเริ่มสร้างเนื้อหาใดๆ ควรวางแผนกลยุทธ์เนื้อหาที่ชัดเจน เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าถึงและวิเคราะห์ว่าเนื้อหาใดที่เหมาะสมและน่าสนใจสำหรับกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ โดยการทำแบบสำรวจหรือการศึกษาตลาดอาจช่วยให้คุณเข้าใจลึกซึ้งขึ้นว่าลักษณะเนื้อหาใดที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณและช่วยสร้างความสนใจในสินค้าหรือบริการของคุณได้มากที่สุด
  2. สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า : ในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าสำหรับผู้อ่าน คุณควรใส่ใจในการเลือกหัวข้อที่น่าสนใจและสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายของคุณ สามารถสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับคำแนะนำการใช้งานสินค้าหรือบริการของคุณ หรือสร้างเนื้อหาที่เป็นคู่มือหรือวิดีโอการสอนเพื่อแสดงให้ผู้คนรู้วิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง การใช้เนื้อหาที่มีคุณค่าสามารถเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้าหรือบริการของคุณโดยอัตโนมัติและลดความจำเป็นในการจ่ายเงินค่าโฆษณา
  3. การใช้สื่อสังคมออนไลน์: สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางที่มีต้นทุนต่ำและมีผู้ใช้งานมากที่สุด ในการโปรโมทเนื้อหาของคุณ คุณสามารถสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและแบ่งปันในแพลตฟอร์มสื่อสังคมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและการแชร์ของผู้ใช้งาน การสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น กลุ่มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ สามารถช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถเข้าร่วมกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ และเสนอโปรโมชั่นพิเศษหรือสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกกลุ่ม เพื่อเสริมสร้างความสนใจและเพิ่มการติดตามและแชร์ของผู้ใช้ เครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นที่ตั้งของผู้ใช้ที่มีจำนวนมาก ซึ่งสามารถเป็นช่องทางที่มีค่าใช้จ่ายต่ำและมีผลตอบแทนที่ดีในการโปรโมทสินค้าหรือบริการของคุณ
  4. การทำ Content ร่วมกับ influencers หรือบุคคลที่มีอิทธิพลในชุมชน: การทำงานร่วมกับ influencers หรือบุคคลที่มีอิทธิพลในชุมชนอาจเป็นวิธีที่มีต้นทุนต่ำในการโปรโมทสินค้าหรือบริการของคุณ โดยที่คุณสามารถให้สินค้าหรือบริการให้ influencers ทดลองใช้และแนะนำในช่องทางสื่อสังคมของพวกเขา การสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลที่มีผู้ติดตามจำนวนมากอาจช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ คุณยังสามารถสร้างพันธมิตรธุรกิจกับบริษัทหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในวงกว้าง เพื่อแลกเปลี่ยนโฆษณาและโปรโมชั่นเพื่อลดค่าใช้จ่ายในโฆษณา
  5. การใช้ SEO (Search Engine Optimization): การปรับแต่งเนื้อหาของคุณให้เหมาะสมกับ SEO จะช่วยให้เนื้อหาของคุณปรากฏในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา เช่น Google การทำ SEO ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม คุณสามารถสร้างเนื้อหาที่มีคำสำคัญหรือคีย์เวิร์ด (Keyword) ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณและนำเข้าในเนื้อหาของคุณเพื่อให้ผู้คนสามารถค้นหาและพบเนื้อหาของคุณได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับแต่งโครงสร้างของเว็บไซต์หรือบล็อกของคุณเพื่อให้มีโอกาสที่จะปรากฏในผลการค้นหาอย่างมากขึ้น
  6. ารใช้การตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing): การสร้างฐานข้อมูลลูกค้าและส่งอีเมล เป็นวิธีที่มีต้นทุนต่ำในการโปรโมทสินค้าหรือบริการ คุณสามารถสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณค่าสำหรับผู้รับอีเมล และส่งออกไปยังกลุ่มเป้าหมายของคุณ โดยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่คุณต้องการโปรโมท รวมถึงโปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษ การใช้การตลาดผ่านอีเมลจะช่วยให้คุณสร้างความสนใจและสร้างความคุ้นเคยกับแบรนด์ของคุณในอินบ็อกซ์ของผู้รับอีเมล
  7. การแฝงเนื้อหาในบทความ (Native Advertising): การนำเสนอโฆษณาผ่านการแทรกคอนเทนต์ในเนื้อหาบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นวิธีที่มีต้นทุนต่ำในการโปรโมทสินค้าหรือบริการของคุณ คุณสามารถจ้างนักเขียนบทความหรือบล็อกเกอร์ที่เชี่ยวชาญ ให้เขียนบทความที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณและแทรกโฆษณาในบทความนั้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยคำแทรกสามารถเป็นลิงก์ที่นำผู้อ่านไปยังหน้าเว็บไซต์ของคุณหรือแม้กระทั่งโลโก้หรือภาพที่เชื่อมโยงกับสินค้าหรือบริการของคุณ เมื่อผู้อ่านอ่านบทความ โฆษณาจะปรากฏในเนื้อหาอย่างเป็นธรรมชาติและเป็นส่วนหนึ่งของบทความเอง เช่น บล็อกเกอร์ที่เขียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวสามารถนำเสนอโฆษณาเกี่ยวกับโรงแรมหรือทัวร์ท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเพิ่มการรับรู้และความน่าสนใจในสินค้าหรือบริการของคุณ
  8. การใช้พันธมิตรธุรกิจ (Business Partnerships): การสร้างพันธมิตรธุรกิจกับธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องสามารถช่วยลดต้นทุนค่าโปรโมทโฆษณาได้ คุณสามารถร่วมมือกับธุรกิจที่มีกลุ่มเป้าหมายเช่นเดียวกันหรือสนับสนุนกัน เพื่อแบ่งปันความรับผิดชอบในการโฆษณาและโปรโมทสินค้าหรือบริการ สามารถจัดกิจกรรมร่วมกัน เป็นประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่าย การพัฒนาพันธมิตรธุรกิจใหม่อาจทำให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใหม่ ๆ และเพิ่มยอดขายได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณสูงในการโฆษณาแบบเดิม
  9. การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีอยู่: การสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าที่มีอยู่สามารถช่วยลดต้นทุนค่าโปรโมทโฆษณาได้ ลูกค้าจะมีแนวโน้มที่จะแบ่งปันประสบการณ์ที่ดีของพวกเขากับผู้อื่น การบริการที่ยอดเยี่ยมและการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามีอิทธิพลในการสร้างความไว้วางใจและความสนใจ ซึ่งเมื่อลูกค้าเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณก็จะส่งผลให้ลูกค้าแนะนำและแชร์กับคนอื่นๆ ในวงกว้างในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีอยู่ คุณสามารถใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า โปรแกรมสะสมคะแนน หรือการส่งข้อความและอีเมลที่กำหนดเองเพื่อแจ้งข่าวสารและสิทธิประโยชน์พิเศษ นอกจากนี้คุณยังสามารถสร้างความสัมพันธ์ผ่านช่องทางสังคมออนไลน์ เช่น การตอบสนองต่อความคิดเห็นและคำถามของลูกค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสนใจและใส่ใจเสียงของลูกค้า นอกจากการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีอยู่แล้ว คุณยังสามารถใช้ข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่เพื่อวางแผนโปรโมชั่นโฆษณาที่เหมาะสมให้กับกลุ่มลูกค้า ได้อีกด้วย การสร้างความเข้าใจในพฤติกรรมซื้อของลูกค้าและตัวชี้วัดความสำเร็จในการขายของคุณจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าสิ่งที่ส่งเสริมการขายดีกับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้คืออะไร จากนั้นคุณสามารถวางแผนกลยุทธ์โฆษณาที่เหมาะสมโดยไม่ต้องใช้งบประมาณในโฆษณาที่ไม่ได้เป้าหมายนอกจากนี้ คุณยังสามารถสร้างความสัมพันธ์และส่งเสริมการขายโดยใช้เครื่องมือต่างๆ ที่มีต้นทุนต่ำกว่าการโฆษณาแบบดั้งเดิม เช่น การใช้สื่อสังคมออนไลน์ เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับลูกค้า การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าสำหรับลูกค้า เช่น บทความบนเว็บไซต์ของคุณ การใช้อีเมลส่งข่าวสารและโปรโมชั่นพิเศษ และอื่นๆ ที่ไม่ได้ต้องใช้งบประมาณสูงในการโฆษณา

เมื่อคุณใช้กลยุทธ์เหล่านี้ในการสร้างเนื้อหาและโปรโมทโฆษณา คุณจะสามารถลดต้นทุนโฆษณาได้โดยมีผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการรับรู้และยอดขายของธุรกิจของคุณในระยะยาวและสร้างความเชื่อมั่นในตลาดของคุณ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมที่จะวิเคราะห์และติดตามผลการโปรโมทโฆษณาของคุณเพื่อปรับปรุงและปรับกลยุทธ์ต่อไปให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณในอนาคต

เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณากับอินดิจิทัล

ติดต่อเรียนการตลาดออนไลน์กับอินดิจิทัล แอดไลน์ ไอดี @inDigital

ติดตามบน Facebook Fanpage : InDigital News

วิธีแชทติดต่อกับเจ้าหน้าที่ YouTube Creator Support

0

วิธีแชทติดต่อกับเจ้าหน้าที่ YouTube Creator Support

การเป็น YouTuber นั้นเป็นอาชีพที่น่าตื่นเต้นและหลายๆคนสามารถสร้างได้และได้รับความประสบความสำเร็จสูง  แต่บางครั้งคุณอาจพบกับปัญหาหรือข้อสงสัยที่ต้องการความช่วยเหลือจากทีมงานของ YouTube ในกรณีเช่นนี้ คุณสามารถติดต่อ YouTube Creator Support เพื่อขอความช่วยเหลือและคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาต่างๆ

โดยหัวข้อที่สามารถแชทกับเจ้าหน้าที่ที่ Youtube สามารถช่วยเหลือได้ ดังต่อไปนี้

  • การปรับปรุงวิธีการใช้ YouTube ของคุณ รวมถึงคำแนะนำด้านเทคนิคและการบริการของ YouTube
  • การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้านนโยบายและลิขสิทธิ์
  • การตอบคำถามเกี่ยวกับการจัดการบัญชีและช่อง
  • การแก้ปัญหาเกี่ยวกับ Content ID และการจัดการสิทธิ์
  • การแก้ปัญหาเกี่ยวกับบัญชี
  1. โดยปกติแล้ว ทีมงาน YouTube Creator Support จะพยายามให้คำตอบและช่วยเหลือคุณในเวลาทำการหรือจะแชทกับเจ้าหน้าที่ในเวลาทำการ อาทิตย์ – พฤหัสบดี เวลา 17:00 – 02:00 น. (PT)
    แชทเป็นภาษาไทย  คลิก 
  2. กรอก URL ของช่อง
    ตัวอย่างเช่น youtube.com/channel/UCUZHFZ9jIKrLroW8LcyJEQQ หรือ youtube.com/user/partnersupport
    จากนั้นกดปุ่มเริ่มแชท
  3. หากต้องการแชทเป็นภาษาอังกฤษ สามารถแชทได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงแชทเป็นภาษาอังกฤษ คลิก

หากต้องการแชทกับทีมสนับสนุนครีเอเตอร์จาก YouTube Studio หรือระบบจัดการเนื้อหาของ Studio

หากคุณเห็นตัวเลือกแชท  กับทีมสนับสนุนครีเอเตอร์ ให้ทำดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้ YouTube Studio หรือระบบจัดการเนื้อหาของ Studio
  2. ที่มุมบนขวา ให้คลิกแชท 
  3. ทำตามข้อความแจ้งเพื่อแชทกับทีมสนับสนุนครีเอเตอร์

หากคุณเห็นตัวเลือกขอความช่วยเหลือ "" จากทีมสนับสนุนครีเอเตอร์ ให้ทำดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้ YouTube Studio
  2. ที่มุมบนขวา ให้คลิกความช่วยเหลือ ""
  3. ในส่วน “ความช่วยเหลือเพิ่มเติม” ให้เลือกติดต่อเรา
  4. ทำตามข้อความแจ้งเพื่อแชทกับทีมสนับสนุนครีเอเตอร์หมายเหตุ: Youtube ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาทางกฎหมายไม่ได้ หากมีคำถามเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ ให้ไปที่ศูนย์ข้อมูลลิขสิทธิ์ของ YouTube ในกรณีที่ต้องการรายงานเนื้อหาที่คิดว่าละเมิดสิทธิทางกฎหมายของคุณ ให้ไปที่ศูนย์การรายงานและบังคับใช้ หากคุณกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย หรือปัญหาการละเมิดอื่นๆ ให้ไปที่ศูนย์นโยบายและความปลอดภัย ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจสถานการณ์ได้ดีขึ้น ทั้งยังอธิบายให้ทราบว่าควรรายงานวิดีโอดังกล่าวที่ใดด้วย.
    .

เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณากับอินดิจิทัล

ติดต่อเรียนการตลาดออนไลน์กับอินดิจิทัล แอดไลน์ ไอดี @inDigital

ติดตามบน Facebook Fanpage : InDigital News