หลังจากที่ Apple ได้ประกาศความเปลี่ยนแปลงที่มีขึ้นใน iOS 14 ซึ่งจะส่งผลต่อวิธีที่ Facebook รับและประมวลผลเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นจากเครื่องมือต่างๆ อย่างพิกเซลของ Facebook ธุรกิจที่ลงโฆษณาแอพมือถือ รวมถึงธุรกิจที่ใช้การปรับให้เหมาะสม กำหนดเป้าหมาย และรายงานเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นบนเว็บไซต์จากเครื่องมือธุรกิจต่างๆ เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากขึ้นที่เลือกปิดการติดตามบนอุปกรณ์ที่ใช้ iOS 14 การปรับแต่งโฆษณาและการรายงานประสิทธิภาพจะถูกจำกัดทั้งในเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นบนแอพและบนเว็บ ดังนั้นคุณควรวางแผนแสดงโฆษณาที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นที่เกิดขึ้นในแอพของธุรกิจของคุณ ให้ดำเนินการดังนี้ อัพเดต SDK ของ...

CTR ที่ไม่ซ้ำกัน (อัตราการคลิกผ่านของลิงค์) คืออะไร? เปอร์เซ็นต์ของคนที่เห็นโฆษณาของคุณและคลิกลิงค์ ซึ่งจะต่างจากอัตราการคลิกผ่านลิงค์ (CTR) ตรงที่จะได้ยอดผู้คลิกลิงค์ที่เป็นจำนวนคน ไม่ใช่วิธีการ ซึ่งยอดที่ได้จะน้อยกว่าอัตราการคลิกผ่านลิงค์ (CTR)   วิธีการคำนวณ CTR ที่ไม่ซ้ำกัน (อัตราการคลิกผ่านของลิงค์) เกณฑ์ชี้วัดนี้จะคำนวณจาก จำนวนคนที่ไม่ซ้ำกันที่ได้มีการคลิกลิงค์ หารด้วย จำนวนคนที่ดูโฆษณา ซึ่งจะนับจำนวนคนที่เข้าถึงเท่านั้น ถ้ามีการเข้าถึงซ้ำๆจากบุคคลคนเดียวกันก็จะไม่นับเพิ่ม (จำนวนคนที่คลิกลิงค์ วัดโดยการนับจำนวนผู้คน ซึ่งจะไม่มีการนับซ้ำ) (จำนวนคนที่ดูโฆษณา ของคุณอย่างน้อยหนึ่งครั้ง การเข้าถึงนั้นจะแตกต่างจากอิมเพรสชั่นซึ่งอาจรวมยอดดูโฆษณาของคุณหลายๆ ครั้งจากคนเดียวกัน)

อัตราการคลิกผ่านลิงค์ (CTR) คืออะไร? อัตราการคลิกผ่านลิงค์คือเปอร์เซ็นต์ของจำนวนครั้งที่คนเห็นโฆษณาของคุณและมีการคลิกลิงค์เข้ามาดูโฆษณา เป็นการเพิ่มจำนวนการคลิกลิงค์   วิธีใช้งานอัตราการคลิกผ่านลิงค์ (CTR) อัตราการคลิกผ่านลิงค์จะระบุว่าคุณได้รับยอดการคลิกลิงค์เป็นจำนวนเท่าใดบนโฆษณา เทียบกับจำนวนอิมเพรสชั่นที่คุณได้รับ ซึ่งถือเป็นเกณฑ์ชี้วัดทั่วไปที่ใช้โดยกลุ่มผู้ลงโฆษณาแบบออนไลน์เพื่อให้ทราบว่าโฆษณากระตุ้นให้เกิดจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์และปลายทางอื่นๆ อย่างไร   วิธีการคำนวณอัตราการคลิกผ่านลิงค์ (CTR) เกณฑ์ชี้วัดนี้คำนวณโดยคิดจาก จำนวนการคลิกลิงค์หารด้วยอิมเพรสชั่น (อิมเพรสชั่น คือการวัดผลว่ามีการนำเสนอโฆษณาของคุณให้กับกลุ่มเป้าหมายหรือมีการรับชมโดยกลุ่มเป้าหมายบ่อยแค่ไหน) (จำนวนการคลิกลิงค์ คือการคลิกลิงค์ในโฆษณาที่นำไปยังปลายทางที่คุณกำหนดไว้ ทั้งในและนอก Facebook)

ทำความรู้กลุ่มคนใน 4 เจเนอเรชั่น Baby Boomer Generation หรือ Gen B Generation X หรือ Gen-X Generation Y หรือ Gen-Y เรียกอีกอย่างว่า Millennials Generation Z หรือ Gen-Z สำหรับพฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อของในปัจจุบัน มีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิม...