เมื่อถึงจุดหนึ่ง ประสิทธิภาพการทำงานของชุดโฆษณาของคุณอาจเริ่มลดลง แม้ว่าคุณจะยังได้รับอิมเพรสชั่นก็ตาม ข้อมูล “จุดอิ่มตัวของกลุ่มเป้าหมาย” ช่วยให้คุณทราบว่าลูกค้าเห็นโฆษณาของคุณหลายครั้งและไม่ตอบสนองอีกต่อไปแล้วหรือยัง การเห็นโฆษณาหลายครั้งช่วยสร้างการรับรู้และการจดจำก็จริง แต่ขณะเดียวกันก็อาจนำไปสู่ผลตอบแทนที่ลดลงได้หากคุณต้องการผลลัพธ์อย่างคอนเวอร์ชั่น เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์จากอิมเพรสชั่นแต่ละครั้งมากที่สุด ใช้แท็บจุดอิ่มตัวของกลุ่มเป้าหมายเพื่อช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ทั้งสองอย่างนี้ในปริมาณเท่าๆ กันและสอดคล้องกับเป้าหมายของคุณ

เกณฑ์ชี้วัดที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง

ข้อมูลเชิงลึกในการแสดงโฆษณามอบเกณฑ์ชี้วัดดังต่อไปนี้เพื่อช่วยให้คุณทำความเข้าใจผลกระทบที่จุดอิ่มตัวของกลุ่มเป้าหมายมีต่อชุดโฆษณาของคุณ

• อิมเพรสชั่น: จำนวนครั้งที่โฆษณาของคุณอยู่บนหน้าจอ
• อัตราส่วนอิมเพรสชั่นครั้งแรก: เปอร์เซ็นต์ของอิมเพรสชั่นต่อวันที่มาจากคนที่เห็นโฆษณาจากชุดโฆษณาของคุณเป็นครั้งแรก อัตราส่วนนี้จะถูกคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ของอิมเพรสชั่นที่ชุดโฆษณาของคุณได้รับในวันก่อน
• การเข้าถึง (สะสม): จำนวนผู้คนที่เห็นโฆษณาของคุณอย่างน้อยหนึ่งครั้งตลอดระยะเวลาการทำงานของแคมเปญ
• อัตราส่วนกลุ่มเป้าหมายที่เข้าถึง: เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นไปได้ที่คุณเข้าถึงมาจนถึงปัจจุบัน กลุ่มเป้าหมายที่เป็นไปได้คิดจากผู้ที่ตรงกับเกณฑ์การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่คุณกำหนด เช่น ตำแหน่งที่ตั้งและเพศ

ควรทำอย่างไรกับข้อมูลนี้

สมมุติว่าอัตราส่วนอิมเพรสชั่นครั้งแรกของคุณลดลงพร้อมกับประสิทธิภาพการทำงานของชุดโฆษณา นี่อาจหมายความว่าได้เวลาที่คุณต้องขยายหรือมองหากลุ่มเป้าหมายใหม่แล้ว ลองสมมุติด้วยว่าคุณใช้กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองที่มอบผลลัพธ์ให้คุณตลอดมาจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ แทนที่คุณจะแสดงโฆษณาที่มีกลุ่มเป้าหมายนี้ต่อไป คุณสามารถใช้กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองเป็นแหล่งข้อมูลของ “กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน” เพื่อหาผู้คนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับผู้ที่ตอบสนองต่อโฆษณาของคุณในอดีต แต่ยังไม่เคยเห็นโฆษณาของคุณ หากคุณเห็นชุดโฆษณาที่มีประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นร่วมกับอัตราส่วนอิมเพรสชั่นครั้งแรก ก็มีแนวโน้มว่าคุณระบุปัญหาถูกแล้ว ติดตามเกณฑ์ชี้วัดเหล่านี้ไปเรื่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณ (หรือคุณอาจเลือกเป็นชิ้นงานโฆษณาก็ได้) มีความสดใหม่อยู่เสมอ

ข้อมูลจาก Facebook